
จากผังระบบนี้มีหมายเลข E1 สองหมายเลขคือ E1 โทรเข้ามาจาก 02-792-1400 เป็นระบบ DID และ E2 โทรเข้ามาจากหมายเลข 02-030-4900
โดยระบบหลักที่เป็นคอลเซ็นเตอร์จะอยู่ฝั่ง E2 ซึ่งต่อเข้ากับ Elastix Server สายโทรเข้าจะผ่านช่องทาง Dahdi 30 คู่สาย
อีกหมายเลขหนึ่งผ่านมาทาง E1 เชื่อมต่อกับกล่อง MyPBX U300 ของ YeaStar มีหน้าที่โอนสายการโทรเข้าไปยังระบบ Call Center ผ่าน SIP Trunk ที่เชื่อมต่อผ่านวงแลนของหมายเลขไอพี 192.168.50.9 ไปยัง 192.168.50.10
และที่เครื่อง U300 มีการเชื่อมต่อกับ SIP Trunk เพื่อใช้ในการโทรออก สาเหตุที่เชื่อมต่อกับตัวนี้ เพราะใน U300 มีการสร้างการเชื่อมต่อที่ง่ายกว่า และในอนาคตจะแยก Trunk ออกจาก Server Elastix
โดยปกติการโทรเข้าทั้ง 2 E1 จะไม่มีปัญหาเพราะโอนสายไปยัง Elastix ทั้งหมด ส่วนการโทรออกจะซับซ้อนนิดหนึ่ง
มือถือจาก Agents จะโทรออกไปยัง U300 ผ่าน SIP Trunk เส้นทางเดิน สีแดง
โทรศัพท์บ้านจาก Agents จะโทรออกไปยัง E2 ตามเส้นทางสีม่วง
กำหนดค่า Outbound ฝั่ง Elastix เพื่อโทรออก SIP Trunk
![]() |
กำหนดรูปแบบการโทรออกเป็น 0ZXXXXXXXX โทรออกไปที่ SIP Trunk ชื่อ U300 |
![]() |
SIP Trunk ชื่อ U300 เชื่อมต่อไปยัง SIP Server IP: 192.168.50.9 |
กำหนด Inbound ฝั่ง MyPBX U300 เพื่อโทรออก SIP Trunk
ที่ MyPBX U300 ต้องกำหนดการรับค่าหมายเลขที่จะโทรออกจาก Elastix ผ่าน SIP Trunk ชื่อ
![]() |
ที่ Inbound ของ U300 กำหนดค่าให้รับ DID Number ตามการโทรออกจาก Elastix คือ 0ZXXXXXXXX |
![]() |
Service provider: ที่ VoIP Trunk ของ U300 เชื่อมต่อผ่านเมนู Service Provider จาก 192.168.50.9 ไปยัง 192.168.50.10 |
![]() |
รูป Route->Mobile: กำหนดรูปแบบให้เป็น 0ZXXXXXXXX ตามที่รับมาจาก Inbound |
![]() |
SIP Trunk กำหนดเพียง IP ของ Server ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผู้ให้บริการนั้นๆ |
ขั้นตอนการกำหนดโทรออกผ่าน SIP Trunk นี้ดูเหมือนจะซับซ้อนยุ่งยาก เพียงแค่ย้ายไปไว้ในฝั่ง Elastix ก็ได้ การโทรออกก็ง่ายเพียงไม่ต้องกำหนดข้ามเซิร์ฟเวอร์
บทความนี้ทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจหลักการเชื่อมต่อของ U300 กับ Elastix ด้วย เพราะที่ผ่านมา หาข้อมูลเกี่ยวการเชื่อมต่อค่อนข้างยาก แต่กว่าจะได้มาก็ต้องสอบถามทั้งผู้ขายจนหมดค่าโทรศัพท์ไปหลายตังค์เหมือนกัน :D
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น